มีปัญหาเรื่องฝ้าค่ะ ใช้ตัวยาหลายอย่าง ไปหาหมอตั้งหลายที่ก็ไม่หาย?

ปัญหาฝ้า กระ เกิดจากการผิดปกติของเม็ดสีใต้ผิว เรามาแยกประเภทของฝ้ากันนะคะ

  1. ฝ้าจากความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น การตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาคุมกำเนิดบางชนิด เมื่อคลอดลูกแล้ว หรือหยุดใช้ยาคุมกำเนิด ฝ้าก็จะค่อย ๆ จางลงได้ค่ะ
  2. ฝ้าจากเลือดลม ไม่สามารถหายได้
  3. ฝ้าจากการสัมผัสแสงแดด ฝ้าประเภทนี้อาจค่อย ๆ จางลงได้ เมื่อผิวได้รับการป้องกันแสงแดดอย่างถูกวิธี และหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดเพิ่มขึ้น
  4. การใช้ครีมทาฝ้า ไม่ใช่การแก้ปัญหาทีต้นเหตุ หลายคนที่ใช้ยาประเภทนี้แล้ว ในช่วงแรกฝ้าจะดูจางลง ผิวหน้าจะดูใสขึ้น แต่เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะโดนแดดไม่ได้ ผิวจะเห่อ ไหม้ กลายเป็นฝ้าหนากว่าเดิม เนื่องจากสารที่เคมีที่เป็นส่วนผสมทำปฏิกิริยาต่อผิว

วิธีแก้ไขที่อยากแนะนำคือ ตรวจสอบตัวเองว่าเราเป็นฝ้าประเภทใด จะทำให้เรารู้ว่าฝ้าที่เราเป็นสามารถหายได้หรือไม่ เพื่อไม่ต้องเสียเวลา เสียเงิน ในการรักษาแล้วไม่ได้ผลใด ๆ

เป็นฝ้าที่จมูกเนื่องจากแดด จะรักษาให้หายเป็นปกติได้ไหม ใช้ครีมรักษาหรือทราบมาว่าใช้เลเซอร์รักษาก็ได้?

1. ฝ้าที่จมูกเนื่องจากแดด จะค่อย ๆ จางลงได้เองค่ะ ถ้าหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดเป็นระยะเวลานาน ๆ รวมทั้งมีการใช้ครีมกันแดดป้องกันทุกครั้งที่ต้องอยู่กลางแดด
2. การใช้ครีมรักษาฝ้าจะทำให้ฝ้าจางลงได้อย่างรวดเร็ว แต่ในระยะยาวอาจเกิดผลเสียต่อผิวได้ เนื่องจากยารักษาฝ้าบางชนิดจะทำให้เซลล์สร้างสีตาย ผิวบริเวณที่สัมผัสกับยาจะบางลง และอาจทำให้ผิวบริเวณนั้นกลายเป็นด่างขาว อย่างที่ตอบไว้ด้านบนนะคะ ฝ้าจากแดดจะค่อย ๆ จางลงได้เองแม้ไม่ได้ใช้ยาอะไรเลยเพียงแต่ต้องอาศัยระยะเวลาค่ะ
3. เลเซอร์สามารถรักษาฝ้าได้ ใช้เวลาไม่นาน ค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูง แต่หลังจากทำแล้วผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์จะบางลง เมื่ออยู่กลางแดดผิวจะแดง ไหม้ ทำให้กลายเป็นฝ้าขึ้นมาได้อีกค่ะ

มีปัญหาเรื่องขอบตาคล้ำน่ะค่ะ

ขอบตาคล้ำเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ไม่ว่าจะเป็นจากกรรมพันธุ์ นอนดึก ชอบขยี้ตา ฯลฯ

ถ้าเป็นจากกรรมพันธุ์ คงต้องใช้เครื่องสำอางประเภทคอนซีลเลอร์ ช่วยพรางบริเวณใต้ตา จะทำให้ดูสว่างขึ้น

ถ้าเป็นจากการนอนดึกหรือการขยี้ตาบ่อย ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว แต่คงไม่ใช่นอนเร็วหรือไม่ขยี้ตาแล้วรอยคล้ำจะหายไปในทันที เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาค่ะ บางคนอาจใช้เวลาหลายเดือน บางคนอาจใช้เวลาเป็นปี แต่มันจะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ

โดยเฉพาะถ้าใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา ทาเป็นประจำสม่ำเสมอทุกวัน เช้า - เย็น โดยเลือกชนิดที่มีส่วนผสมของเอเชียติก แอซิด ซึ่งจะช่วยลดรอยคล้ำและถุงใต้ตาได้ค่ะ

ในระหว่างที่รอยคล้ำยังไม่หายไป แนะนำให้ใช้คอนซีลเลอร์ปกปิดไปพลาง ๆ ก่อนค่ะ... วิธีเลือกคอนซีลเลอร์ ที่เหมาะกับเราคือ เราต้องการใช้คอนซีลเลอร์ในการปกปิดไม่ว่าจะเป็นรอยคล้ำใต้ตา หรือรอยฝ้ากระ ฉะนั้นควรเลือกสีที่ใกล้เคียงกับผิวเรามากที่สุด ทดลองเกลี่ยดูที่ผิวว่าเกลี่ยแล้วต้องไม่เป็นคราบ เนื้อครีมรองพื้นควรจะมีความแน่นของเนื้อสี เพื่อให้สามารถปกปิดได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

อยากรู้ว่าริมฝีปากดำทำให้มีสีชมพูถาวรมีวิธีใดบ้างมีแต่คนทักว่าหน้าใสแต่ปากดำ

ก่อนที่จะทำให้ริมฝีปากมีสีชมพู ต้องแก้ที่ต้นเหตุที่ทำให้ริมฝีปากดำก่อนค่ะ

ริมฝีปากดำอาจเกิดได้จาก
1. การสูบบุหรี่
2. ใช้ลิปสติกไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งริมฝีปากดำมักเกิดกับคนที่ใช้ลิปสติกราคาถูก หรือลิปสติกประเภทติดทนนาน

วิธีการแก้ไขปัญหาริมฝีปากดำ ก่อนอื่นคือหลีกเลี่ยงปัจจัยข้างต้น และใช้โลชั่นบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA หรือไวท์เทนนิ่ง นวดคลึงริมฝีปากเป็นประจำทุกวัน เช้า-เย็น

ไม่แนะนำให้ใช้วิธีการสักเลยนะคะ เพราะอาจทำให้เห็นผลทันทีว่าริมฝีปากเป็นสีชมพู แต่ผลข้างเคียงในระยะยาวยังไม่มีใครทราบได้ เลือกใช้วิธีที่ประหยัด และปลอดภัยน่าจะดีกว่าค่ะ

มีรอยดำที่ขาหนีบทำอย่างไรดีคะ?

รอยดำที่ขาหนีบ อาจเกิดได้จากการเสียดสี ไม่ว่าจะเป็นการเสียดสีของกางเกง สวมใส่กางเกงชั้นในคับเกินไป หรือการเสียดสีจากต้นขาของเราเอง ฯลฯ วิธีป้องกันไม่ให้รอยดำเพิ่มมากขึ้นคือการหลีกเลี่ยงสาเหตุดังกล่าว

ส่วนวิธีการแก้ปัญหารอยดำที่เป็นอยู่แล้ว คือการขัดผิว ด้วยสครับขัดผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง และบำรุงผิวด้วยโลชั่นที่มีส่วนผสมของสาร AHA และ ไวท์เทนนิ่ง เพื่อทำให้รอยดำค่อย ๆ จางลงค่ะ